ภัยเงียบจากการดื่มน้ำเย็น

เวลาร้อนๆ เหนื่อยๆ ก็ต้องน้ำเย็นๆ สักแก้วเพื่อให้ชื่นใจ  แต่ใครจะคาดคิดว่าจริงๆ แล้วน้ำเย็นเป็นภัยเงียบต่อร่างกายของเรา ซึ่งมักจะเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือโรคอัมพฤกษ์นั่นเองค่ะ และยังส่งผลให้ไตของเราทำงานหนักมากขึ้น จนเกิดภาวะ ไตอ่อนแอ

การที่เราไม่รับประทานผัก รับประทานแต่เนื้อสัตว์ และยังชอบรับประทานน้ำเย็น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มเย็น ชา กาแฟ ต่างๆ หรือน้ำที่แช่จากตู้เย็นก็ตาม ล้วนส่งผลให้ไตของเราทำงานหนัก เพราะไตต้องทำการกำจัดความเย็นออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้ปัสสาวะบ่อย   ผู้ที่ชอบทานน้ำเย็นก็ยิ่งขาดน้ำจนเลือดข้นหนืดไปหมด ประกอบกับหลอดเลือดที่เริ่มแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่น ทำให้มีคราบไขมัน และของเสียไปยึดเกาะตามผนังหลอดเลือดจนเกิดการพอกพูนกลายเป็นโรคหลอดเลือดตีบ

ปกติไตของเราทำหน้าที่ในการกรองของเสียตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว  ซึ่งเป็นอวัยวะที่ต้องทำงานหนักตลอดเวลา การดื่มน้ำเย็นยิ่งเพิ่มภาระการทำงานของไตให้หนักมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิด  ภาวะ ไตอ่อนแอ  ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกายดังนี้

  ปัสสาวะบ่อยขึ้น อั้นปัสสาวะไม่ได้นาน ดื่มน้ำเข้าไปแล้ว ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆ กลางคืนก็ต้องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำหลายเที่ยว
  มีอาการปวดหลัง ปวดเอวบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ
  ปวดเมื่อยตามข้อ และ ร่างกายง่าย เช่น ปวดข้อเข่า ปวดต้นคอ
  หลอดเลือดตีบตัน หรือ หลอดเลือดแข็งได้ง่าย

คนที่ทานน้ำเย็น น้ำอัดลม น้ำหวานเย็น ชาเย็น นมเย็น กาแฟเย็น อยู่เป็นประจำ มีต้องอาการปวดหลังแน่นอน

สัญญาณเตือนที่บอกว่าเราเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องกล้ามเนื้ออ่อนแรง คือ  มึนเวียนศีรษะบ่อยๆ และวิเวียนง่าย  เวลากระพริบตาจะเห็นเหมือนแสงไฟแว๊บๆ   และการพูดเริ่มติดๆ ขัดๆ พูดผิดๆ ถูกๆ

วิธีดูแลตัวเองทำได้ง่ายๆ ดังนี้

1.ทานน้ำอุ่นให้ได้ 8-10 แก้ว ทุกวัน เพิ่มน้ำเข้ากระแสเลือดเพื่อปรับเลือดที่หนืดข้นให้หายข้น
2.ออกกำลังเป็นประจำที่สามารถทำได้ หรืออาจใช้การจัดกระดูก ช่วยให้เลือดไหลเวียนสม่ำเสมอ ระบบการสูบฉีดเลือดคล่องตัวขึ้น
3.ไม่กินอาหารเนื้อสัตว์ ของทอด ของหวานจัด เพราะทำให้เกิดอนุมูลอิสระปริมาณมาก จนทำให้หลอดเลือดแข็ง หรือตีบตันได้ง่าย
4.งดการทานน้ำเย็นเด็ดขาด

วิธีการดูแลตัวเองง่ายๆ แบบนี้  รู้แล้วส่งต่อให้คนที่คุณรัก เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

ที่มา postjung