วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

มรกตแห่งอันดามัน มหัศจรรย์ กระบี่

หลังจากตอนที่แล้วได้ไปเที่ยวชมหนองทะเล พักผ่อนทานอาหารเช้ากันแล้ว ตอนนี้เราจะขึ้นเรือมุ่งสู่ทะเลเที่ยวชมเกาะต่างๆ ตามคุณ ตระเวนเที่ยว ไปต่อกันที่ทะเลใต้กันเลยค่ะ
ทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ต้องพึ่งอากู๋ ต่อครับ ให้นำทางไปอ่าวท่าเลน โปรแกรมที่สองของวันนี้ ก็จะไปพายเรือแคนนูกันที่อ่าวท่าเลนครับ ว่าแล้วก็ขับตาม อากู๋ ไปกันเลยครับ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีครับ ก็มาถึงแล้วเรียบร้อย
บริเวณท่าเรือกันซักหน่อย มีกรุ๊ปทัวร์ทยอยๆมากันเรื่อยๆครับ
ตอนแรกเรากะว่าจะไม่ออกทะเล เพราะว่ามันเริ่มเข้าฤดูมรสุม แต่พอมาถึงที่ท่าเรือ เราก็ต้องเปลี่ยนแผนครับ เพราะว่าวันนี้ ฟ้าสดใสมากมาย จากที่แพลนว่าจะพายเรือที่แถวๆอ่าวท่าเลน เราก็เลยตัดสินใจเช่าเรือหางยาวออกไปเที่ยวเกาะห้องกันครับ
สำหรับค่าเช่าเรือ ตอนแรกเจ้าของเรือคิดวันละ 2500 พาไปเที่ยว 4 เกาะ ก็คือ เกาะห้อง เกาะผักเบี้ย เกาะลาดิง ลากูน เรือที่เราเหมา ก็แบบที่เห็นนี่เลยครับ มากันซัก 6-7 คนนี้ นั่งสบายๆเลย หารเฉลี่ยต่อคน ไม่กี่ร้อยบาท
เข้าห้องน้ำเรียบร้อย เตรียมสเบียงเสร็จ ก็เริ่มเดินทางออกสู่ทะเลกันเลยครับ อากาศดีมากมาย
ไม่คิดว่ามาช่วงใกล้ฤดูฝนจะเจอบรรยากาศแบบนี้ สุดๆไปเลย
ถามพี่คนขับ บอกใช้เวลาไม่นานครับ ก็ถึง ชมบรรยากาศไปเรื่อยๆระหว่างทางก่อนนะ
ออกเรือมาซักพัก ก็เจอเรือกลุ่มนี้ครับ ใครรู้บ้างเค้าทำอะไรกันอยู่เอ่ย???? ไม่ใช่ช้อนขยะนะ บอกไว้ก่อน 555
เป็นอาชีพอย่างนึง รายได้ดีด้วยนะจะบอกให้ บางช่วงรายได้ขึ้นถึงหลักหมื่นเลยนะจะบอกให้
เฉลยครับ เค้ากำลังช้อน แมงกระพรุน นั่นเอง บางช่วงแมงกระพรุนขึ้นน้อย ราคาจะพุ่งขึ้นโลละหลายร้อยถึงหลักพันเลยทีเดียว
ชมบรรยากาศเกาะเล็กเกาะน้อยกันไปเพลินๆครับ ถ้าได้เบียร์ซักแพค นี่ยิ่งฟินเลยนะนี่ คริๆ
สนใจซื้อไว้ ขับเล่นชมวิวซักลำดีไหมครับ 555
ถึงแล้วครับสำหรับทัวร์เกาะแรกของเรา พี่คนขับเรือพาเรามาเที่ยวกันที่เกาะห้องกันก่อนเลยครับ
อ่าวห้อง, ลากูน หรือ ทะเลใน เป็นหนองน้ำเค็มที่เชื่อมต่อกับทะเล มีปากทางเข้าไม่ถึง 10 เมตร อยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะห้อง เมื่อเข้าไปด้านในจะเป็นเหมือนห้องโถงทะเล ล้อมรอบไปด้วยป่า และหน้าผาสูงชัน ภายในอ่าวห้องมีน้ำทะเลใส สีมรกต น้ำค่อนข้างตื้น มองเห็นพื้นด้านล่าง มีต้นไม้ป่าชายเลนขึ้นอยู่ เป็นที่หลบภัยของสัตว์น้ำ และ ชาวประมงเวลาที่คลื่นแรง ไม่สามารถเดินเรือได้ 
น้ำใสมากมาย หลายคน จะมาจอดเรือเล่นน้ำกันที่จุดนี้ แต่ผมแค่แวะเข้ามาชมวิวพอ อยากไปดำน้ำดูปะการัง หาดูปลานีโม่ซะมากกว่า เลยได้จอดลงเล่นน้ำครับ
พี่คนขับใจดีมากมายขับวนให้ชมบรรยากาศภายใน ชมหินย้อย วิวต่างๆจนพอใจ ก็เดินทางไปยังเกาะอื่นต่อไปครับ
ได้เวลาออกจากเกาะห้องไปสู่เกาะอื่นต่อ
อีกหนึ่งเสน่ห์สำหรับนี่ก็คือเกาะหินปูน รูปแบบทรงแปลกตารูปทรงต่างๆสวยงามมากมาย
เกาะลาดิง หรือเกาะเหลาล่าดิง (เกาะพาราไดซ์)  เป็นเกาะในหมู่เกาะห้อง อยู่ในอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี รอบๆ เต็มไปด้วยเกาะอื่นๆ นับสิบเกาะ บนเกาะลาดิงมีหาดที่เล่นน้ำได้หาดเดียวอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ ชายหาดยาวประมาณ 60 เมตร บนเกาะลาดิง  สมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ใหญ่และภูเขาหินปูน  น้ำ สีเขียวใส   บรรยากาศร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา จากจุดนี้แวะลงไปดำน้ำดูปลาได้ซักพัก แต่น้ำขุ่นครับ มองไม่ค่อยชัด เลยถามพี่คนขับเรือว่ามีที่ไหนน้ำใสๆบ้างอยากเห็นปะการังกับปลาชัดๆ พี่คนขับใจดีมากครับ เลยพาเราไปอีกอ่าวนึง 
ถึงแล้วครับ เป็นส่วนตัวมากมาย คนไม่มีเลย สบายละเรา ดูจากบนเรือ น้ำใสมากครับ แดดจัดแบบนี้ เห็นชัดแน่ แอบเสียดายไม่ได้เอากล้องดำน้ำมา อดได้ภาพใต้น้ำมาให้ได้ชมกันเลย นีโม่ตัวใหญ่มากครับ ใหญ่แบบไม่เคยเจอที่ไหนมากก่อน เดี๋ยวรอบหน้าต้องกลับไปอีกรอบซะละ เตรียมอุปกรณ์ไปให้ครบเซต 555
โปรแกรมสุดท้ายของเราครับ เกาะผักเบี้ย จะมีสองฝั่งครับ พี่คนขับเรือถามว่าอยากลงฝั่งไหนก่อน จะจอดให้ทั้งสองฝั่งใจดีสุดๆ แต่ดูแล้วฝั่งที่เห็นในภาพไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เลยเลือกไปลงอีกฝั่งนึงครับ
เราเลือกมาลงฝั่งนี้แทนครับ
ถึงแล้วครับ โปรแกรมสุดท้ายของเราครับ เกาะผักเบี้ย นั่นเอง
เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะห้อง มีพื้นที่ประมาณ 400 ตรม พืนที่เกือบทั้งหมดเป็นป่า และหน้าผาหิน รูปทรงของเกาะผักเบี้ยมีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยมแบบกลม มีชายหาดทางทิศตะวันตก 2 ฝั่ง เป็นชายหาดที่เกิดจากสันทรายเชื่อมไปยังเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้เกาะผักเบี้ย
เหนื่อยๆมาแล้วนั่งชิวๆมุมนี้เลยครับ เป็นอีกมุมเก๋ๆบนเกาะนี้ถ่ายรูปสวยได้เลย
เสร็จจาก เกาะผักเบี้ย พี่คนขับเรือบอกเด่วพาไปชมวิวต่อ โอ้ว ใจดีสุดๆ ไปลัดเลาะชมบรรยากาศกันต่อได้อีก ประทับใจสุดๆ
แวะชมหินย้อย ตามเกาะต่างๆสวยงามมากมาย เที่ยวเมืองไทย ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ มีสิ่งสวยๆงามๆให้ชมมากมาย
ได้เวลากลับเข้าฝั่งกันละ
นึกว่าจะจบโปรแกรมละ พี่คนขับเรือบอก เด่วผมพาไปชมที่สวยๆอีกที่นึง มาที่ท่าเลนแล้ว ไม่มาที่นี่ไม่ได้ อยู่ระหว่างทางกลับเข้าฝั่งพอดี
แหลมจมูกควาย เค้าบอกว่าที่นี่เป็นไฮไลท์เลยนะ คนชอบถ่ายภาพชอบมาแวะถ่ายที่นี่ พูดแบบนี้ ไม่ได้ซิ แบบนี้ต้องซักหน่อย จัดไปๆ ถึงแล้วครับ เดี๋ยวเราแวะมาถ่ายภาพกันซักนิด
บริเวณโดยรอบๆครับ เป็นแหลมที่สวยงามมาก โดยเฉพาะลายหินที่ตรงปลายแหลม พี่คนขับบอกว่า เย็นๆตรงนี้จะมีฝรั่ง และคนไทยชอบมาถ่ายภาพกัน แบบนี้เด่วรอบหน้าต้องมาจัดซักหน่อย อิอิ ถ่ายรูปจนหนำใจ ก็ได้เวลาขึ้นเรือกลับเข้าฝั่งครับ กว่าจะถึงฝั่งก็ประมาณบ่าย3 ละ ตอนแรก แพลนจะไปพายแคนนูต่อแต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง
ไปถึงฝั่งน้ำลดครับ จากที่พายจากท่าเรือไปนิดเดียวก็เข้าถ้ำแล้ว คราวนี้น้ำลง สันทรายโผล่ขึ้นมาถ้าจะพายเข้าถ้ำต้องพายอ้อมไปไกลมาก พวกเราก็เลยตัดสินใจ ตัดโปรแกรมนี้ออกครับ แล้วก็เดินทางกลับโรงแรมเลย ปิดท้ายทริปล่องทะเลกระบี่ด้วยภาพที่แหลมจมูกควายนี้ครับ เดี๋ยวเรา ขึ้นฝั่งกันละ
ก่อนเข้าโรงแรม ก็แวะไปหาของอร่อยๆทานแถวๆท่าเรือกันอีกซักหน่อย เนื่องจากว่า มีเพื่อนในเฟส แนะนำว่าให้มาทานอาหารที่ร้านนี้ครับ เลยให้อากู๋นำทางมาลองซักหน่อย ถึงแล้วครับร้านอาหารที่เค้าแนะนำกัน ร้านโกตุง นั่นเอง อยู่ตรงเยื้องๆท่าเรือเจ้าฟ้าที่เรามาวันแรกครับ
บรรยากาศภายในร้านซักหน่อย หิวโซมาจากออกทะเล เพื่อไม่ให้เสียเวลา ได้เวลาอร่อยกันละ
เมนูที่สั่งมาครับ ไม่รู้อะไรอร่อย เปิดหน้าเมนูแนะนำก็ได้มาตามภาพที่เห็นนี่เลยครับ อิอิ  แต่ผมว่าแกงเหลืองสู้ร้าน น้องโจ๊กไม่ได้ ร้านนั้นแซ่บกว่า ในความเห็นส่วนตัวนะ
ทานอิ่มแล้วก่อนกลับ ก็แวะหาของหวานทานซักหน่อย เห็นมีร้านกาแฟ เก๋ๆ อยู่ใกล้ๆกันเลยแวะไปสั่งทานกันต่อ ขนมปังปิ้ง พร้อมกาแฟเย็น รสชาติ ก็ธรรมดาๆครับ เน้นบรรยากาศเก๋ๆ แทนละกันนะ
อิ่มแล้วก็เดินทางกลับโรงแรมครับ ถึงโรงแรมก็เกือบห้าโมง ทางโรงแรมมีไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเย็นด้วย หน้าตาน่าทานจัง แต่ เนื่องจากเมื่อกี้ จัดหนักไปละ อิ่มมากมาย ขอไปว่ายน้ำย่อยก่อนละกัน อิอิ
เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ได้เวลาพักผ่อนกันละ ต้องรีบนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องกลับไฟลท์เช้าเลย ประมาณ 9 โมง พอดีตั๋วโปร ได้เวลานั้นพอดี เลยต้องยอมตื่นไวหน่อย นั่งเม้าท์กันซักพักกะเพื่อนแล้วก็แยกย้ายกันพักผ่อนครับ
ตัดมาตอนเช้าเลยครับ ก่อนเช็คเอ้าท์ก็แวะทานอาหารเช้ากันก่อนไปขึ้นเครื่องครับ
บ๊ายบาย กระบี่ แล้วมีโอกาสจะกลับมาอีกครั้งนะ
ปิดท้ายด้วยภาพนี้เลยครับ น้องแอร์ผู้ชายก่อนเครื่องแลนด์ดิ้ง มีการพูดเป็นภาษาใต้ขอบคุณผู้โดยสารด้วย เป็นมีสนุกสนานเฮฮามากมาย
บินคุ้ม คุณภาพครบ Airasia ….. 
 
ปิดท้ายรีวิวกันด้วยภาพนี้เลยครับ เมืองไทยสวยไม่แพ้ชาติใดในโลก....
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนมาชมรีวิวนี้ ขอบคุณทุก Like ที่มอบให้ หวังว่าข้อมูลในรีวิวนี้คงจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะวางแผนไปเที่ยวยังจังหวัดกระบี่ ถึงแม้จะเข้าช่วงหน้าฝน แต่กระบี่ ก็ยังสามารถไปเที่ยวได้เช่นกันอาจเลือกพายแคนนูแถวๆท่าเลน หรือถ้าโชคดีจองตั๋วไว้แล้วพอดีวันที่ไปท้องฟ้าแจ่มใส ก็อาจจะเปลี่ยนแพลนเป็นออกทะเลเหมือนผม หรือจะไปไกลกว่านั้นเช่นถ้ำมรกต ก็แล้วแต่สะดวก

สำหรับวันนี้ขอจบรีวิวไว้เพียงเท่านี้ครับ แล้วพบกันในรีวิวครั้งต่อไป จะไปพาไปเที่ยวต่างประเทศกันบ้างใบ้ไว้นิดนึง ท่องเอาไว้ครับ ซินจ่าว ซินจ่าว  อิอิ แล้วพบกันครับ สำหรับวันนี้ ขอกล่าวคำว่า ขอบคุณครับ
เป็นไงกันบ้างคะ กระบี่เป็นอเมซิ่งทะเลไทยไหมคะ ต้องบอกว่าสวยสุดๆ จริงๆ ชีวิตนึงต้องได้ไปค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ ตระเวนเที่ยว

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น