วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
ช่างภาพเสี่ยงตาย เพียงเพราะอยากถ่ายภาพ ลาวา ดาวตก ทางช้างเผือก และดวงจันทร์ รวมกันอยู่ในภาพเดียว!
ช่างภาพเสี่ยงตาย เพียงเพราะอยากถ่ายภาพ
ลาวา ดาวตก ทางช้างเผือก และดวงจันทร์
รวมกันอยู่ในภาพเดียว!
ลาวา ดาวตก ทางช้างเผือก และดวงจันทร์
รวมกันอยู่ในภาพเดียว!
เห็นแล้วต้องร้องว้าว! เมื่อ Mike Mezeul ช่างภาพชาวอเมริกันที่รักการถ่ายภาพและชอบการผจญภัย เดินทางไปยัง Volcanoes National Park ที่ตั้งอยู่บนเกาะในฮาวาย ไมค์ต้องเดินทางประมาณ 13 ไมล์ หรือเกือบๆ 21 กิโลเมตร ขึ้นไปยังภูเขาไฟที่ยังมีลาวาร้อนระอุไหลอยู่พื้นดินใต้ล่าง เพื่อจับภาพความงามของธรรมชาติทั้ง ลาวา ดาวตก ทางช้างเผือก และดวงจันทร์ ให้ทั้งหมดอยู่รวมกันในภาพๆ เดียว!
ซึ่งเขาเสี่ยงชีวิตมากๆ เพราะสามารถที่จะอยู่บนนั้นได้เพียงไม่กี่วินาที เพื่อถ่ายภาพที่ต้องการ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะถูกความร้อนจากลาวาเผาไหม้ซะเอง >,< ไมค์บอกว่า “นี้เป็นภาพเอ็กซ์ตรีมสุดๆ เท่าที่เคยถ่ายมา” ก็น่าจะใช่แหละไมค์ !!
กล้องที่ใช้ : Nikon D810 /เลนส์ Nikkor 14-24mm / ISO 2500, f/2.8, and 25 seconds.
วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
จัดอันดับปริมาณแคลอรี่เบียร์ 11 ยี่ห้อ ตัวไหนกินแล้วอ้วนน้อยที่สุด!
มีหลายคนที่รักการดื่มเป็นที่สุด!!! ยิ่งถ้าเป็นสาว ๆ นักดื่มด้วยแล้วละก็ แน่นอนว่าเรื่องที่พวกเธอกังวลที่สุดคงไม่พ้นเรื่อง"น้ำหนัก" เบียร์นะจ๊ะ! ไม่ใช่น้ำเปล่าที่ยิ่งดื่มเยอะยิ่งผอม อยากดื่มก็อยากดื่มนะ แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าดื่มเยอะอ้วนแน่ ๆ แบบนี้ต้องมาหาวิธีแล้วแหละว่าจะดื่มอย่างไรให้น้ำหนักไม่ขึ้น? งั้นเวลาดื่มลองเลือกเบียร์กันหน่อยดีกว่าไหม? มาดู 9 อันดับปริมาณแคลอรี่ในเบียร์ 11 ยี่ห้อขวัญใจคนไทย ยี่ห้อไหนแคลอรี่น้อยที่สุดกันนะ!
****เรียงจากยี่ห้อเบียร์ที่มีปริมาณแคลอรี่น้อยที่สุดไปหามากที่สุด****
**อัตราส่วนในการวัด : 1 กระป๋อง (ประมาณ 12 fl. oz ) หรือ 1 ขวดเล็ก (330 ml.)**
อันดับ 1 : Tiger Beer 126 กิโลแคลอรี่
อันดับ 2 : San Miguel / Sapporo 140 กิโลแคลอรี่
อันดับ 3 : Federbrau 141 กิโลแคลอรี่
อันดับ 4 : Kirin Ichiban 145 กิโลแคลอรี่
อันดับ 5 : Heineken 148 กิโลแคลอรี่
อันดับ 6 : Hoegaarden 149 กิโลแคลอรี่
อันดับ 7 : Chang / Beer Lao Lager 150 กิโลแคลอรี่
อันดับ 8 : Singha 160 กิโลแคลอรี่
อันดับ 9 : Leo 165 กิโลแคลอรี่
9 ของกินเล่นข้างทาง ที่ไปถึงเกาหลีแล้วต้องกิน!
Ddeokbokki (떡볶이)
"ต๊อกโบกี" เป็นเมนูที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นแป้งต๊อกผัดกับซอสรสชาติหวาน ๆ เผ็ด ๆ ไปถึงเกาหลีก็ต้องไปยืนกินที่ร้านนี่แหละ อร่อยสุด!
Odeng/Uhmook (오뎅/어묵)
คนเกาหลีจะเรียก "โอเด้ง" มันก็คือลูกชิ้นปลาเสียบไม้เอาไปต้มกับน้ำซุป ถ้ายืนกินที่ร้านเราสามารถตักน้ำซุปจากหมอมาซดกินฟรี ๆ ได้เลย
Ice Cream-filled Waffles (와플)
คุณจะหาร้านที่ขายไอศครีมวาฟเฟิลแบบนี้ได้ตามสถานีรถไฟใต้ดิน ที่ร้านก็มีท็อปปิ้งให้ได้เลือกเพิ่มอีกด้วย เช่น วิปครีม หรือปลไม้
Hotteok (호떡)
"โฮต๊อก" จะเป็นแป้งที่ข้างในมีไส้ถั่วแดง คลุกกับน้ำตาลก่อนจะเอาไปทอดแล้วกดจนแบน เวลากินก็จะมาในในถ้วยกระดาษ เดินถือกินได้สบาย ๆ เลย
Bbopkki (뽑기)
เป็นแผ่นน้ำตาลที่คนเกาหลีเรียกว่า "โป๊ปกิ" วิธีทำคือจะเอาน้ำตาลทรายไปเคี้ยวจนเหนียว แล้วโรยเบกกิ้งโซดา จากนั้นคนให้เข้ากันก่อนเทลงบนแผ่นเหล็กแล้วกดให้แบน แล้วใช้เหล็กที่ดัดเป็นรูปทรงต่าง ๆ กดให้เป็นลวดลาย
Boong-uh-ppang (붕어빵)
"พุงออปัง" หรือที่บ้านเราเรียกว่า "ขนมปังปลา" เป็นขนมปังรูปปลาที่ข้างในเป็นไส้ถั่วแดง จริง ๆ แล้วที่เมืองไทยก็มีขาย แต่ถ้าอยากอร่อยของจริงต้องไปกินที่เกาหลีนะจะบอกให้
Gamja Hot Dog (감자핫도그)
เป็นไส้กรอกเสียบไม้ชุบแป้งทอดที่ไม่ธรรมดา เพราะพอทอดเสร็จก็เอามาชุบเฟรนช์ฟรายส์แล้วเอาไปทอดอีกครั้ง เวลากินก็ราดซอสมะเขือเทศ ถึงอ้วนก็ยอมละคราวนี้!
Gyeran-Bbang (계란빵)
"เครันปัง" ขนมปังข้างในเป็นไส้ไข่ทั้งลูก คนเกาหลีนิยมทานเครันปังเป็นมื้อเช้า เพราะเร็วและหาซื้อง่ายดี
Ojingeo Twigim (오징어 튀김)
ปลาหมึกทอดที่มาทั้งตัว หนึบ ๆ เหนียว ๆ อร่อยดี ถ้าได้กินแกล้มกับโซจูนะ เพลินลืมมมมม!!
คนที่เคยไปเกาหลีแล้วมาบอกกันได้นะว
ว่าคุณชอบอาหารเกาหลีเมนูไหน?
นี่ก็หนาวเวอร์ เครื่องบินแช่แข็งในจีน
Dutch Wives..ตุ๊กตายางจากญี่ปุ่น สวยล้ำเกินหน้าผู้หญิงจริงไปแล้ว!
ก้าวขึ้นไปอีกระดับ สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตของเล่นผู้ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ดังที่เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 เว็บไซต์ airvibez มีรายงานว่า บริษัท Orient Industry ของประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาและผลิตตุ๊กตายางจากซิลิโคนคุณภาพสูง ซึ่งถูกยกให้เป็นก้าวต่อไปของการทำผิวหนังเทียม จนกลายมาเป็นตุ๊กตายางที่มีความสมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสที่เนียนนุ่มของผิวหนัง และดวงตาสวยหวานราวกับคนจริง ๆ แถมผู้ใช้งานยังสามารถขยับตัวหุ่นให้อยู่ในท่าทางต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้อีกด้วย
โดยตุ๊กตายางซึ่งถูกจำหน่ายภายใต้ชื่อ “Dutch Wives” นี้ มีราคาเพียงตัวละ 1,000 ปอนด์ (ราว 52,000 บาท) เท่านั้น แถมลูกค้าที่สนใจยังสามารถเลือกปรับขนาดหน้าอก สีผม และลักษณะทางกายภาพต่าง ๆ ของตุ๊กตาได้ตามที่ต้องการอีกด้วย …โอ้วววว มาย ก็อชชชช!! ชะนีเพลีย~
cr: men.kapook.com
