วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก

 แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก เห็นเป็นสัตว์อ่อนโยน ขาว สวย นวลๆ แบบนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ชีแซ่บไม่เบานะจ๊ะ ยังไงเวลาเล่นน้ำเพื่อนๆ ก็ระวัง ดูแลตัวเองและคนใหล้ตัวกันด้วยนะ ^^
แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก

แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก

เรื่องน่ารู้ แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish)
เอาหล่ะ! เรามาย้อนกลับไปสมัยมัธยม เรียนวิชาชีววิทยากันหน่อยดีกว่า คูโบซัว (ชั้น Cubozoa) เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังชั้นหนึ่งของไฟลัมไนดาเรีย มีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษเรียกโดยรวมว่า “แมงกะพรุนกล่อง” (Box jellyfish) หรือ “แมงกะพรุนสาหร่าย” ( Sea wasp) หรือ “สาโหร่ง” (Sea wasp) เพราะมีพิษที่ร้ายแรงและมีรูปร่างคล้ายลูกบาศก์อันเป็นที่มาของชื่อ แมงกะพรุนเป็นสัตว์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาแล้วกว่า 505 หรือ 600 ล้านปี มีวงจรชีวิตที่ขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ยังบอกกันอีกว่า  แมงกะพรุนกล่องเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาอย่างก้าวไกลกว่าแมงกะพรุนทั่วไป
คูโบซัว จัดเป็นแมงกะพรุนที่แบ่งออกได้เป็น 2 อันดับใหญ่ๆ ด้วยกัน คือแบบเมดูซา (Medusa) และแบบโพลิป (Polyp) ดูได้ง่ายๆ จาก พวกที่ไม่เคลื่อนที่จะมีรูปร่างแบบโพลิป – ปากอยู่ทางด้านบน และพวกที่เคลื่อนที่ได้จะว่ายน้ำได้อิสระ – ปากอยู่ทางด้านล่าง ซึ่งแมงกะพรุนกล่องนั้นเป็นแบบเมดูซาคะ
ลักษณะแบบเมดูซา (Medusa) หรือแมงกะพรุนทรงระฆังคว่ำ : มีลักษณะคล้ายร่มที่ด้านบนโค้ง (Exumbella) ด้านล่างเว้า (Subumbrella) หนวดและอวัยวะ รับความรู้สึกสัมผัสต่างๆ อยู่บริเวณขอบร่ม ปากอยู่ตรงปากของส่วนยื่น ตรงกลางด้านล่างของร่ม (Manubrium) นำเข้าสู่โพรงอาหารซึ่งอยู่บริเวณตรงกลาง
แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
คูโบซัว แบบเมดูซา (Medusa) และแบบโพลิป (Polyp)
  • แมงกะพรุนกล่อง เมื่อโตเต็มวัย ส่วนประกอบหลักในลำตัวเป็นน้ำร้อยละ 94-98
  • แมงกะพรุนเป็นสัตว์ที่มีลำตัวโปร่งใส ร่างกายประกอบด้วยเจลาตินเป็นส่วนใหญ่ สามารถมองเห็นเข้าไปได้ถึงอวัยวะภายใน
  • เป็นสัตว์ที่ไม่มีทั้งสมองหรือหัวใจ !
  • แมงกะพรุนกล่องมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตัวต่อทะเล หรือนักพ่นพิษแห่งท้องทะเล
  • มักอาศัยอยู่ในน้ำตามแนวชายฝั่งของออสเตรเลียตอนเหนือและทั่วอินโดแปซิฟิก
  • มีสีฟ้าอ่อน โปร่งใส และได้ชื่อนี้มาจากรูปร่างที่เหมือนลูกบาศก์  
  • มีหนวดมากถึง 15 เส้นที่งอกออกมาจากแต่ละมุมของช่วงตัวและสามารถยืดยาวได้ถึง 10 ฟุต (3 เมตร)
  • ด้วยการพัฒนาความสามารถในการเคลื่อนที่มากกว่าการล่องลอย โดยการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วถึงสี่น็อตท่ามกลางทะเล
  • แมงกะพรุนกล่องมีดวงตาเกาะกลุ่มกันหกกลุ่มอยู่บนทั้งสี่ด้านของลำตัว แต่ละกลุ่มจะมีดวงตาหนึ่งคู่ซึ่งมีเลนส์ตา เรตินา ตาดำและแก้วตาที่มีประสิทธิภาพสูง แม้ว่าจะไม่มีระบบประสาทส่วนกลาง นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าแมงกะพรุนพวกนี้มีกระบวนการในการมองเห็นอย่างไร
แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
แมงกะพรุนกล่อง ติดอันดับ 1 ในการจัดอันดับชนิดของสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก
แมงกะพรุนหลายชนิดมีพิษ โดยบริเวณหนวดและแขนงที่ยื่นรอบปาก เรียกว่า เข็มพิษ ใช้สำหรับฆ่าเหยื่อ หรือทำให้เหยื่อสลบก่อนจับกินเป็นอาหาร ซึ่งโดยมากเป็น ปลา และใช้สำหรับป้องกันตัว ภายในเข็มพิษของมันมีน้ำพิษที่เป็นอันตรายทำให้เกิดอาการคัน เป็นผื่น บวมแดง เป็นรอยไหม้ ปวดแสบปวดร้อน และเป็นแผลเรื้อรังได้ หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ขึ้นอยู่กับแมงกะพรุนแต่ละชนิด
ในชนิด Chironex fleckeri ซึ่งเป็นแมงกะพรุนกล่องชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีเซลล์เข็มพิษมากถึง 4-5,000,000,000 ล้านเซลล์ ในหนวดทั้งหมด 60 เส้น ซึ่งมีผลทางระบบโลหิต โดยไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้โลหิตเป็นพิษ และเสียชีวิตลงได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
หนวดแต่ละเส้นจะมีเซลล์พิษอยู่ประมาณ 5,000 เซลล์ซึ่งไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยการสัมผัสแต่โดยการพบสารเคมีจากชั้นผิวภาพนอกของเหยื่อ
แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
วิธีถอนพิษ แมงกะพรุนกล่อง
วิธีถอนพิษ แมงกะพรุนกล่อง
แมงกะพรุนกล่อง (Box jellyfish) พิษของมันนั้นจะไปทำลาย หัวใจ ระบบประสาท ผิวหนัง และที่สำคัญ ถ้าโดนพิษมันจะเจ็บปวดอย่างที่สุด ส่วนใหญ่คนที่โดนพิษมันนั้นจะช็อค และหัวใจล้มเหลวก่อนที่จะกลับเข้าถึงฝั่ง แต่ถ้าคุณโดนพิษมันก็ยังมีโอกาสที่จะรอดอยู่นั่นคือ ต้องรีบเอาน้ำส้มสายชู มาล้างอย่างน้อย 30 วินาที เพราะมันจะทำลายพิษของแมงกระพรุนกล่องก่อนที่มันจะเข้าไปสู่กระแสเลือด
เวลาโดนที่ผิวหนัง ห้ามใช้นิ้วดึงออกหรือใช้วัตถุใดๆ ขูดออกเด็ดขาด เพราะเป็นการเร่งให้เข็มพิษแทงเข้าไปในเนื้อแล้วปล่อยพิษเข้าสู่กระแสเลือด วิธีการหยุดยั้งไม่ให้พิษซึมเข้าในร่างกายได้ ต้องใช้น้ำส้มสายชูซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ (ร้อยละ 3-5) ราดไปที่แผล ไม่ใช้น้ำร้อนประคบเพราะจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวกระจายพิษง่ายขึ้น ส่วนผักบุ้งทะเลช่วยลดความเจ็บปวดเอาไว้ใส่ทีหลัง แต่ถ้าหัวใจหยุดเต้นก็อย่าเพิ่งไปมัวแต่หาน้ำส้มสายชู ต้องรีบปั๊มหัวใจผายปอดแล้วรีบนำส่งโดยด่วน
แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
เหตุการณ์คนที่โดนพิษ แมงกะพรุนกล่อง ในประเทศไทย
เหตุการณ์คนที่โดนพิษ แมงกะพรุนกล่อง ในประเทศไทย
ในปีที่ผ่านๆ มาได้มีการจัดอันดับชนิดของสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก และแมงกะพรุนกล่องก็ติดเป็นอันดับต้นๆ ซะด้วย! ข่าวหลายต่อหลายสำนักได้รายงานถึงการเสียชีวิตของผู้คนที่เกิดจากพิษของมันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่คนที่โดนพิษมันนั้นจะช็อค และหัวใจล้มเหลวก่อนที่จะกลับเข้าถึงฝั่งซะด้วยซ้ำไป
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในน่านน้ำของประเทศออสเตรเลีย สำหรับประเทศไทยม รายงานการเสียชีวิตจากแมงกะพรุนหลายรายในช่วง 10 ปี เช่น
  • ในปี 2542 พบรายแรกที่เกาะสมุย สุราษฏร์ธานี
  • ในปี 2545 พบผู้เสียชีวิตอีก 2 รายที่เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี 
  • ในปี 2551 พบผู้ป่วยเสียชีวิต 1 รายที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยคาดว่าสาเหตุเกิดจากแมงกะพรุนกล่อง
  • เด็กหญิงชาวต่างชาติ อายุ 11 ขวบ ที่เสียชีวิตนั้น มีประวัติสัมผัสแมงกะพรุนพิษ ขณะเล่นน้ำอยู่บริเวณใกล้ชายหาดเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ หมดสะติ หัวใจหยุดเต้น หยุดหายใจ ประมาณ 10 นาทีหลังขึ้นจากน้ำ ได้รับบาดเจ็บ มือขวาและขาทั้งสองข้าง ได้รับการรักษาเบื้องต้นด้วยการปั๊มหัวใจกู้ชีพ ที่สถานีอนามัยและโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
  • ส่วนรายที่ชีวิต เกิดเหตุเมื่อ 30 ธันวาคม 2549 เป็นเด็กชายชาวต่างชาติ อายุ ขวบ มีประวัติสัมผัสแมงกะพรุนพิษขณะว่ายน้ำแถวเกาะหมาก จังหวัดตราด พบลักษณะแผลไหม้พอง ที่ขาทั้งสองข้าง หยุดหายใจ ได้รับการรักษาเบื้องต้นด้วยน้ำส้มสายชู แล้วส่งต่อไปรักษาต่อในโรงพยาบาลเป็นเวลา วัน แล้วอาการดีขึ้น
แมงกะพรุนกล่อง มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
แมงกะพรุนอิรุคันจิ (Irukandji jellyfish)
แมงกะพรุนอิรุคันจิ (Irukandji jellyfish
แมงกะพรุนอิรุคันจิ (Irukandji jellyfish) เป็นแมงกะพรุนที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดอีกชนิดหนึ่งของโลกด้วย จัดเป็นแมงกะพรุนจำพวกแมงกะพรุนกล่อง หรือ คูโบซัว เหมือนกันคะ ซึ่งถือว่าเป็นแมงกะพรุนชนิดใหม่ของโลกอีกด้วย
แมงกะพรุนอิรุคันจิ  เป็นแมงกะพรุนที่มีขนาดเล็ก มีความยาวเพียงไม่เกิน 1 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 1 ออนซ์ มีลำตัวโปร่งใส เผยกระจายพันธุ์แต่เฉพาะทางตอนเหนือของออสเตรเลีย แต่ปัจจุบันได้มีรายงานพบในหลายพื้นที่มากขึ้น เช่น ฮาวาย, ญี่ปุ่น, ฟลอริดา รวมถึงในประเทศไทย
พิษของแมงกะพรุนอิรุคันจิ ทำให้ผู้ที่โดนเข็มพิษของแมงกะพรุนจำพวกนี้แทงถูกมีอาการที่เรียกว่า “อาการอิรุคันจิ” (Irukandji syndrome) มีหนวดที่มีเข็มพิษจำนวนมากมายที่มีพิษต่อระบบโลหิต โดยจะทำให้โลหิตเป็นพิษ และเสียชีวิตได้ในระยะเวลาไม่นาน

ขอบคุณข้อมูล nationalgeographic,student.chula.ac.th,wikipedia

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น